-
คนกลุ่มแรกที่สร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นคือชาวสุเมเรียน ผู้คิดประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก อารยธรรมที่ชาวสุเมเรียนขึ้นเป็นพื้นฐานสำคัญของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย สถาปัตยกรรม ตัวอักษร ศิลปกรรมอื่นๆ ตลอดจนทัศนคติต่อชีวิตและเทพเจ้าของชาวสุเมเรียน ได้ดำรงอยู่และมีอิทธิพลอยู่ในลุ่มแม่น้ำทั้งสองตลอดช่วงสมัยโบราณ
-
การเกิดขึ้นของนครรัฐสุเมเรียน ถือเป็นการเริ่มต้นของอารยธรรมในแถบเมโสโปเตเมีย (ปัจจุบันคืออิรัก) ซึ่งเป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก สุเมเรียนประกอบด้วยกลุ่มนครรัฐที่มีความเป็นอิสระ เช่น อูรุก (Uruk), อูร์ (Ur), ลากาช (Lagash) และคิช (Kish) ซึ่งแต่ละนครรัฐมีพระราชาหรือขุนนางเป็นผู้นำปกครองและมีศูนย์กลางการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจที่สำคัญ
-
3500 ปีก่อนคริสต์ศักราช (ประมาณ 5500 ปีที่ผ่านมา) อยู่ในช่วงยุคหินใหม่ (Neolithic Era) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์มนุษย์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการพัฒนาการเกษตร, การตั้งถิ่นฐานถาวร, และการเกิดอารยธรรมเมือง ยุคหินใหม่ (Neolithic Era) สิ้นสุดลงประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยเฉพาะในบางภูมิภาค เมื่อเข้าสู่ยุคสำริด (Bronze Age) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนุษย์เริ่มใช้โลหะในการทำเครื่องมือและอาวุธ
-
การก่อตั้งอารยธรรมเมโสโปเตเมียเกิดขึ้น ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำไทกรีสและยูเฟรติส (ปัจจุบันคืออิรัก) เมโสโปเตเมียถือเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมแรกของโลก อารยธรรมที่สำคัญในพื้นที่นี้ประกอบด้วยสุเมเรียน, อัคคาเดียน, บาบิโลเนียน, และอัสซีเรียน แต่ละอารยธรรมได้พัฒนาเทคโนโลยี, การปกครอง, และศิลปะ เช่น การเขียนคูนิฟอร์ม, การสร้างซิกกูแรต, และระบบกฎหมาย ทำให้อารยธรรมเมโสโปเตเมียมีอิทธิพลต่อการพัฒนาอารยธรรมในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก หรือ : https://youtu.be/06nB8IMCa1I?si=8GkficRfbxyKcv0O
-
สุเมเรียนเป็นอารยธรรมแรกในเมโสโปเตเมียที่พัฒนาเมืองรัฐอิสระ เช่น อูรุก และอูร์ มีความสำคัญในด้านเกษตรกรรม การค้าขาย และการประดิษฐ์ตัวอักษรคูนิฟอร์ม หลังจากยุครุ่งเรือง นครรัฐสุเมเรียนเสื่อมอำนาจลงและถูกรวมเข้ากับจักรวรรดิอัคคัดและจักรวรรดิอื่น ๆ ในภูมิภาค
-
การเขียนคูนิฟอร์ม (Cuneiform) เป็นระบบการเขียนที่พัฒนาขึ้นโดยอารยธรรมสุเมเรียนในเมโสโปเตเมีย ใช้แท่งดินเหนียวและเครื่องมือที่เรียกว่า “สไตลัส” ในการเขียน โดยเริ่มจากสัญลักษณ์ภาพ (pictograms) และพัฒนามาเป็นสัญลักษณ์เรขาคณิตที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ระบบนี้ถูกใช้ในการบันทึกข้อมูลทางการค้า, การบริหารจัดการ, กฎหมาย, และวรรณกรรม และมีอิทธิพลต่อการพัฒนาของระบบการเขียนในวัฒนธรรมอื่น ๆ ต่อมา
-
การประดิษฐ์ตัวอักษรครั้งแรกในโลกเกิดขึ้นในอารยธรรมสุเมเรียนของเมโสโปเตเมีย ประมาณ 3400-3000 ปีก่อนคริสต์กาล โดยใช้ระบบการเขียนที่เรียกว่า คูนิฟอร์ม
-
ยุคโบราณ (Ancient History) หมายถึงช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นการใช้การเขียนและการจัดตั้งอารยธรรมที่สำคัญ จนถึงการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาของหลายอารยธรรมที่สำคัญในประวัติศาสตร์มนุษย์
-
การสร้างพีระมิดของอียิปต์เริ่มขึ้นในช่วง อาณาจักรเก่า (ประมาณ 2686-2181 ปีก่อนคริสต์กาล) โดยพีระมิดถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสุสานสำหรับกษัตริย์ (ฟาโรห์) และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจและความศักดิ์สิทธิ์ของฟาโรห์ พีระมิดที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ พีระมิดแห่งกิซ่า ซึ่งสร้างในรัชสมัยของ ฟาโรห์คูฟู (Khufu) ประมาณ 2580-2560 ปีก่อนคริสต์กาล
-
พีระมิดโจเซอร์ (Djoser's Pyramid) หรือ พีระมิดแห่งซักการา (The Pyramid of Saqqara) นับเป็นพีระมิดแห่งแรกของอียิปต์ ที่ฟาโรห์โจเซอร์ (Djoser หรือ Zoser) แห่งราชวงศ์ที่ 3 เป็นผู้สร้างขึ้น โดยมี อิมโฮเทป (Imhotep) ที่ปรึกษาประจำองค์ฟาโรห์เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ ลักษณะที่สำคัญคือเป็น พีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid) ซ้อนกันรวม 6 ชั้น
-
พีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramids) เป็นกลุ่มพีระมิดที่สร้าง เพื่อเป็นสุสานของฟาโรห์ในอียิปต์ ประกอบด้วยสามพีระมิดหลัก ได้แก่: 1. พีระมิดของคูฟู (Khufu): มหาพีระมิด เป็นพีระมิดที่ใหญ่และสูงที่สุด 2. พีระมิดของคาเฟร (Khafre): พีระมิดขนาดกลาง สร้างโดยพระโอรสของคูฟู 3. พีระมิดของเมนคูเร (Menkaure): พีระมิดที่เล็กที่สุด นอกจากนี้ ยังมี สฟิงซ์แห่งกิซ่า รูปปั้นสิงโตที่ตั้งอยู่ใกล้พีระมิดของคาเฟร
-
เมือง โมเฮนโจ-ดาโร (Mohenjo-Daro) ของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุก่อตั้งขึ้นในช่วงประมาณ 2500 ปีก่อนคริสต์ศักราช ข้อมูลที่ได้จากการขุดค้นแสดงให้เห็นว่าเมืองนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญของอารยธรรมในสมัยนั้น มีการวางผังเมืองที่เป็นระเบียบและระบบท่อระบายน้ำที่ซับซ้อน
-
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปัจจุบันของปากีสถานและตอนเหนือของอินเดีย
-
ราชวงศ์เซี่ย (Xia Dynasty) ซึ่งถือเป็นราชวงศ์แรกของจีนก่อตั้งโดยพระเจ้าหวัง (Yu the Great) การก่อตั้งราชวงศ์นี้มีบทบาทสำคัญในการจัดการน้ำและการเกษตรในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำเหลือง ราชวงศ์เซี่ยเป็นระบอบการปกครองที่รวมศูนย์อำนาจภายใต้กษัตริย์ และการพัฒนาเทคโนโลยีและสังคมในช่วงนี้มีความสำคัญ แม้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อพระเจ้าชุน (King Jie) ถูกโค่นล้มโดยราชวงศ์ซาง (Shang Dynasty) แต่ราชวงศ์เซี่ยถือเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมจีนโบราณ
-
ราชวงศ์แรกของจีนคือ ราชวงศ์เซี่ย (Xia Dynasty) ซึ่งก่อตั้งขึ้นประมาณ 2070 ปีก่อนคริสต์กาล และสิ้นสุดลงประมาณ 1600 ปีก่อนคริสต์กาล ราชวงศ์นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของระบอบกษัตริย์ในประวัติศาสตร์จีน แม้ว่าหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับราชวงศ์นี้จะยังคงเป็นที่ถกเถียง แต่ในตำนานและบันทึกของจีนโบราณถือว่าราชวงศ์เซี่ยเป็นราชวงศ์แรกที่ก่อตั้งอารยธรรมจีน
-
ชาวอัสซีเรียในเมโสโปเตเมียพวกเขาเชื่อว่าสุริยุปราคาเป็นลางร้าย โดยเฉพาะเป็นการทำนายว่ากษัตริย์จะถึงแก่ความตาย เพื่อรักษา ชีวิตของกษัตริย์ พวกเขาจึงคิดค้นพิธีกรรมแต่งตั้ง กษัตริย์ตัวปลอมขึ้นมา โดยก่อนที่จะเกิดสุริยุปราคา จะมีการแต่งตั้งใครสักคนให้เป็นกษัตริย์ปลอม โดยกษัตริย์ปลอมจะแต่งตัวเหมือนกษัตริย์จริงทุกประการ ส่วนกษัตริย์ตัวจริงจะหลบซ่อน ตัวไม่ให้ใครพบเห็น และเมื่อสุริยุปราคาผ่านพ้นไปแล้วกษัตริย์ปลอมจะถูกประหารชีวิตเพื่อให้ความเลวร้ายต่าง ๆ ตายไปพร้อมกับกษัตริย์ปลอม
-
สุริยุปราคาเกิดขึ้นเป็นประจำ ทุก ๆ ปีจะมีสุริยุปราคาอย่างน้อย 2 ครั้งและมากที่สุดถึง 5 ครั้งในบางปี แต่การเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงในตำแหน่งเดิมอาจใช้เวลานานหลายร้อยปี เนื่องจากดวงจันทร์เคลื่อนที่ในวงโคจรที่ซับซ้อน สุริยุปราคา ยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบันและจะเกิดขึ้นต่อไปตราบใดที่ดวงจันทร์ยังคงโคจรรอบโลกและเรียงตัวกับดวงอาทิตย์ในแนวเดียวกัน
-
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ช่อง YouTube : Abdulthaitube - อับดุลย์
เอ๊ย ถามไรตอบได้! หรือ Qr-code -
กรุงโรมเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นสาธารณะรัฐในปี 509 ก่อนคริสต์ศักราช (BC) หลังจากการล่มสลายของระบอบกษัตริย์ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเมื่อประชาชนโรมันขับไล่กษัตริย์ลูซิอุส ทาร์เควinius ซูเปอร์บัส และก่อตั้งระบบสาธารณะรัฐที่มีการแบ่งอำนาจระหว่างสองเจ้าหน้าที่หลัก คือ “คอนซูล” และ “เซเนท” เพื่อป้องกันการรวมอำนาจอยู่ที่บุคคลเดียว
-
กรุงโรมเปลี่ยนระบอบเป็นสาธารณรัฐ เกิดขึ้นในปี 509 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อชาวโรมันล้มล้างระบอบกษัตริย์และสถาปนา สาธารณรัฐโรมัน (Roman Republic) ขึ้น โดยมีการปกครองแบบสภาและเลือกตั้งผู้นำ แทนที่ระบอบกษัตริย์
สาธารณรัฐโรมันดำรงอยู่จนถึงปี 27 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อ ออกตาเวียน (Octavian) ได้รับการแต่งตั้งเป็น จักรพรรดิออกัสตัส (Augustus) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire) และสิ้นสุดระบอบสาธารณรัฐ -
เรื่องราวเริ่มต้นจากปี 490 ปีก่อนคริสตกาลระหว่างสงครามกรีก-เปอร์เซีย ขณะนั้น ชาวเอเธนส์กำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากกองกำลังเปอร์เซียที่นำโดยกษัตริย์ดาไรอัส ตอนนั้น กองทัพเปอร์เซียยกพลขึ้นบก ที่เมือง Marathon บนชายฝั่งตะวันออกของ Attica ประเทศกรีซ แม้ฝั่งเอเธนส์จะมีจำนวนน้อยกว่ามากแต่ก็สามารถคว้าชัยชนะในสมรภูมิมาราธอนมาได้ หลังจากพวกเขาคว้าชัยชนะมาแล้ว นายพลชาวเอเธนส์ก็ได้วางแผน ที่จะส่ง "ผู้ส่งสาร" ไปยังกรุงเอเธนส์ โดยมีระย ทางห่างออกไปประมาณ 26.2 ไมล์ เพื่อไปส่งข่าวแห่งชัยชนะ
-
เป็นนักวิ่งและทหารที่ยอดเยี่ยมและเหมาะสมที่สุด การเดินทางจากมาราธอนไปเอเธนส์นั้นไม่ง่ายเลยPhedippides พบกับความท้าทายมากมายระหว่างทางรวมถึงภูมิประเทศที่อันตราย สภาพอากาศที่เลวร้ายและการเผชิญหน้ากับทหารศัตรู หลังจากวิ่งอย่างไม่ลดละหลายชั่วโมงในที่สุด Phedippides ก็มาถึงกรุงเอเธนส์ พร้อมความเหน็ดเหนื่อย พร้อมส่งข้อความแห่งชัยชนะไปยังชาวเอเธนส์
-
การต่อสู้ที่มาราธอนระหว่างกรีซและเปอร์เซียเกิดขึ้นใน 490 ปีก่อนคริสต์ศักราช โดยเป็นการต่อสู้ที่กินเวลาเพียงวันเดียว การต่อสู้สิ้นสุดลงภายในวันเดียวกันด้วยชัยชนะของกรีซ https://youtu.be/-1rzAGr3tK4?si=nJfZ0pUfENgvBMNa
-
เกิดขึ้นในปี 480 ปีก่อนคริสตกาล พันธมิตรรัฐกรีกตั้งรับการรุกรานของจักรวรรดิเปอร์เซีย ณ ช่องเขาเทอร์มอพิลีในกรีซตอนกลาง กองทัพกรีกเสียเปรียบด้านจำนวนอย่างมหาศาล แต่ก็ยังสามารถยันกองทัพเปอร์เซียได้เป็นเวลาสามวัน ยุทธการดังกล่าวเป็นหนึ่งในการรบจนตัวตายที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
-
มหาวิหารพาร์เธน่อนในกรุงเอเธนส์เป็นศาสนสถานที่สำคัญและมีชื่อเสียงของกรีกโบราณ สร้างขึ้นในช่วงปี 447-438 ก่อนคริสต์ศักราช (BC) เพื่อถวายพระเจ้าหญิงอธีนา ผู้เป็นเทพีของกรุงเอเธนส์ โดยสถาปนิกอิคตินอสและคาลิครีทีส และประติมากรรมโดยฟีเดียส มหาวิหารนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมคลาสสิกของกรีก และแสดงถึงอำนาจและความรุ่งเรืองของกรุงเอเธนส์ในยุคทอง
-
การก่อสร้างมหาวิหารพาร์เธน่อนในกรุงเอเธนส์เริ่มต้นในปี 447 ก่อนคริสต์ศักราช (BC) และเสร็จสิ้นในปี 438 ก่อนคริสต์ศักราช (BC) มหาวิหารนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายพระเจ้าหญิงอธีนา (Athena) ผู้เป็นเทพีประจำเมืองเอเธนส์
-
สงครามเพโลพอนเนเซียน (Peloponnesian War) เริ่มต้นขึ้นในปี 431 ปีก่อนคริสต์กาล การเริ่มต้นสงครามนี้เกิดจากความตึงเครียดและความขัดแย้งระหว่าง นครรัฐเอเธนส์ และ นครรัฐสปาร์ตา พร้อมกับพันธมิตรของพวกเขา เอเธนส์และสปาร์ตาเป็นคู่แข่งที่มีอำนาจทางการเมืองและทหารในกรีซ การปะทะกันครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างสองเงื่อนไขของการปกครอง: ประชาธิปไตยของเอเธนส์และการปกครองแบบออคลอคราซี (oligarchy) ของสปาร์ตา สงครามนี้กินเวลายาวนานถึง 27 ปีและมีผลกระทบสำคัญต่อประวัติศาสตร์กรีก รับชมข้อมูลเพิ่มเพิ่มได้ที่ Qr-code
-
สงครามเพโลพอนเนเซียน (Peloponnesian War) เกิดขึ้นระหว่างปี 431-404 ปีก่อนคริสต์กาล เป็นการต่อสู้ที่ยาวนานระหว่าง นครรัฐเอเธนส์ และ นครรัฐสปาร์ตาพร้อมพันธมิตรของแต่ละฝ่าย การสงครามนี้มีผลกระทบสำคัญต่อการเมืองและประวัติศาสตร์ของกรีซโบราณ
-
การเสียชีวิตของเพลโต นักประวัติศาสตร์ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดถึงสาเหตุการตายของเขา อย่างไรก็ตาม มีบันทึกว่าเขาเสียชีวิตในกรุงเอเธนส์ในวัยประมาณ 80 ปี มีตำนานบางเรื่องที่กล่าวถึงว่าเพลโตเสียชีวิตในงานแต่งงานที่เขาเป็นแขก แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจน
-
การสิ้นสุดของสงครามเพโลพอนนีเซียนเกิดขึ้นในปี 404 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อเอเธนส์พ่ายแพ้ต่อสปาร์ตาอย่างสมบูรณ์ การยอมจำนนของเอเธนส์เกิดขึ้นหลังจากที่กองเรือของพวกเขาถูกทำลาย และเมืองถูกปิดล้อมโดยกองทัพสปาร์ตาในช่วงเวลาสุดท้ายของสงคราม
-
อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) เกิดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 356 ปีก่อนคริสต์ศักราช ที่เมืองเพลลา (Pella) เมืองหลวงของแคว้นมาซิโดเนีย (Macedonia) ทางตอนเหนือของกรีซ พระองค์เป็นบุตรของกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย และพระนางโอลิมเปียส (Olympias)
-
อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great) เกิดเมื่อ 356 ปีก่อนคริสต์กาล และเสียชีวิตเมื่อ 323 ปีก่อนคริสต์กาล การเสียชีวิตของเขาเกิดขึ้นที่เมืองบาบิโลน (Babylon) ในช่วงอายุ 32 ปี หลังจากการสร้างจักรวรรดิที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่จากกรีซถึงอินเดีย
-
อเล็กซานเดอร์สวรรคตในพระราชวังเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 ที่กรุงบาบิโลนในวันที่ 11 หรือ 12 มิถุนายน 324 ปีก่อนคริสตกาล สาเหตุการสวรรคตไม่เป็นที่แน่ชัด พลูทาร์กระบุว่าอเล็กซานเดอร์เริ่มมีไข้ราว 14 วันก่อนสวรรคตและอาการหนักถึงขั้นตรัสไม่ได้ พระอาการไม่ดีขึ้นจนสวรรคตในที่สุด นักประวัติศาสตร์บางคนอย่างดีโอโอรัส, แอร์เรียน เคยพูดทำนองว่าเจ็บป่วยของอเล็กซานเดอร์อาจเกิดจากการวางยาพิษในไวน์
-
สงครามปูนิกครั้งแรก (First Punic War) ระหว่างโรมันและคาร์เธจเริ่มต้นขึ้นในปี 264 ก่อนคริสต์ศักราช สงครามนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างสาธารณรัฐโรมันกับจักรวรรดิคาร์เธจ ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางทะเลที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแอฟริกา (ในบริเวณประเทศตูนิเซียปัจจุบัน) เหตุผลหลักของสงครามคือการต่อสู้เพื่อควบคุมเกาะซิซิลี ซึ่งมีความสำคัญทั้งทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจ
-
สงครามปูนิก (Punic Wars) เป็นชุดสงครามระหว่าง โรมัน และ คาร์เธจ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งระหว่างปี 264-146 ปีก่อนคริสต์กาล โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อแย่งชิงอำนาจในแถบเมดิเตอร์เรเนียน
-
จักรพรรดิองค์แรกของจีนคือ จักรพรรดิอิ๋งเจิ้ง (Qin Shi Huang) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) และรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นอาณาจักรเดียวในปี 221 ก่อนคริสต์ศักราช (BC) เขาได้ดำเนินการปฏิรูปการปกครองและกฎหมายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและศูนย์กลางอำนาจของจักรวรรดิ
-
จักรพรรดิองค์แรกของจีนคือ จักรพรรดิฉินสื่อหวง (Qin Shi Huang) ซึ่งมีชื่อจริงว่า เจิ้ง (Zheng) และเป็นจักรพรรดิของราชวงศ์ฉิน (Qin Dynasty) ช่วงเวลาที่เขาครองราชย์เริ่มต้นในปี 221 ก่อนคริสต์ศักราช เมื่อเขาสามารถรวมประเทศจีนให้เป็นหนึ่งเดียว หลังจากการสวามิภักดิ์ของรัฐต่างๆ โดยเขาครองราชย์จนถึงปี 210 ก่อนคริสต์ศักราชเมื่อเขาเสียชีวิต
-
ในสงครามพิวนิกครั้งที่ 2 "ฮันนิบาล (Hannibal)'
แม่ทัพฝ่ายคาร์เธจ ได้เข้ารุกรานอิตาลีและได้รับชัยชนะ ก่อนจะพ่ายแพ้เมื่อ 202 ปีก่อนคริสตกาล และทำให้กรุงโรมได้มีอำนาจในแถบตะวันตกของเมดิเตอเรเนียนและ ดินแดนจำนวนมากในสเปน -
สงครามปูนิกครั้งที่ 3 (Third Punic War) เป็นการปะทะสุดท้ายระหว่าง โรมัน และ คาร์เธจ: 1. สาเหตุ: โรมันต้องการทำลายคาร์เธจหลังจากสงครามปูนิกครั้งที่ 2 เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นภัย 2. เหตุการณ์หลัก: โรมันปิดล้อมและโจมตีเมืองคาร์เธจอย่างรุนแรง 3. การล่มสลาย: เมืองคาร์เธจถูกทำลายและเผาในปี 146 ปีก่อนคริสต์กาล 4. ผลลัพธ์: การทำลายคาร์เธจทำให้โรมันกลายเป็นอำนาจที่โดดเด่นในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Qr-code หรือ ช่อง YouTube : Epic StoryTelling
-
การลอบสังหารจูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar) เกิดขึ้นเมื่อ 44 ปีก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งเป็นวันที่เรียกกันว่า “Ides of March” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในกรุงโรม ณ อาคารวุฒิสภา (Curia of Pompey) กลุ่มผู้สมคบคิดในการลอบสังหารนำโดยวุฒิสมาชิกที่มีชื่อเสียง เช่น มาร์คัส จูนีอัส บรูตัส (Marcus Junius Brutus) และ กัสสิอัส ลองจินัส (Gaius Cassius Longinus) เหตุผลหลักในการลอบสังหารซีซาร์เกิดจากความกลัวว่าซีซาร์จะใช้อำนาจของตนเองเพื่อล้มล้างสาธารณรัฐโรมันและกลายเป็นกษัตริย์
-
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ YouTube : History World หรือ Qr-code
-
จักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิโรมันคือ จักรพรรดิออกัสตุส (Augustus) หรือกาอิอุส ออกุสตุส ซีซาร์ (Gaius Octavius Caesar) (ลูกบุณธรรมของ จูเลียส ซีซาร์) เขาเริ่มครองราชย์ตั้งแต่ปี 27 ก่อนคริสต์ศักราชและครองราชย์จนถึงปี 14 คริสต์ศักราช การขึ้นครองราชย์ของเขาทำให้จักรวรรดิโรมันเริ่มเข้าสู่ยุคจักรวรรดิและสิ้นสุดยุคสาธารณรัฐโรมัน
-
การก่อตั้งจักรวรรดิโรมัน โดย ออกตาเวียน (Octavian) เริ่มต้นในปี 27 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อเขาได้รับตำแหน่ง จักรพรรดิออกัสตัส (Augustus) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire) และสิ้นสุดยุคสาธารณรัฐโรมัน
จักรวรรดิโรมันที่ก่อตั้งโดยออกตาเวียนดำรงอยู่จนถึง 476 คริสตกาล ซึ่งเป็นปีที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลาย -
จักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิโรมันคือ จักรพรรดิออกัสตุส (Augustus) ซึ่งมีชื่อจริงว่า กาอิอุส ออกุสตุส ซีซาร์ (Gaius Octavius Caesar) เขาขึ้นครองราชย์ในปี 27 ก่อนคริสต์ศักราช และครองราชย์จนถึงปี 14 คริสต์ศักราช
-
พระเยซู (Jesus) คือบุคคลสำคัญในศาสนาคริสต์ที่เชื่อกันว่าเป็นพระบุตรของพระเจ้าหรือพระคริสต์ เขาเกิดประมาณปี 4-6 ก่อนคริสต์ศักราชในเมืองเบธเลเฮม และสิ้นพระชนม์ประมาณปี 30-36 คริสต์ศักราช โดยถูกตรึงบนไม้กางเขนในกรุงเยรูซาเลม การสอนและการกระทำของพระองค์กลายเป็นพื้นฐานสำคัญของศาสนาคริสต์ พระเยซูสอนหลักธรรมเกี่ยวกับความรัก การให้อภัย และความรอดผ่านความเชื่อในพระเจ้า
-
ศาสนาคริสต์กำเนิดขึ้นมา โดยพระเยซูทรงเป็นศาสดา ตั้งแต่ปีคริสต์ศักราชที่ ๑ แต่ชาวคริสต์เชื่อว่า ศาสนาคริสต์มีมาตั้งแต่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกและมนุษย์ เหตุการณ์ก่อนกำเนิดของพระเยซู จึงเป็นการเตรียมการเสด็จมาของพระองค์ ซึ่งชาวคริสต์เรียกว่า พระผู้ไถ่ (Redeemer) คือ ทรงมาไถ่กู้มนุษย์ให้พ้นจากบาป อันเป็นสาเหตุแห่งทุกข์
-
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่มีรากฐานมาจากคำสอนและชีวิตของพระเยซูคริสต์
-
พระเยซูสิ้นพระชนม์ประมาณปีที่ 30-36 คริสต์ศักราช (AD) ตามบันทึกในพระคัมภีร์ไบเบิล พระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขนในกรุงเยรูซาเลม (Jerusalem) โดยถูกกล่าวหาว่ากระทำการที่เป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของรัฐโรมัน และการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการก่อตัวของศาสนาคริสต์
-
เหตุการณ์ไฟไหม้กรุงโรมเกิดขึ้นในปี 64 คริสต์ศักราช (AD) ไฟลุกไหม้เป็นเวลาห้าวัน ทำให้พื้นที่กว้างขวางของเมืองถูกทำลาย โดยจักรพรรดินีเนโร (Nero) ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ขณะที่เขาใช้โอกาสในการสร้างกรุงโรมใหม่และลงโทษคริสเตียนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุไฟไหม้.
-
ไฟไหม้กรุงโรมเริ่มขึ้นในวันที่ 18 กรกฎาคม ปี 64 คริสต์ศักราช (AD) และสิ้นสุดลงในวันที่ 23 กรกฎาคม ปีเดียวกัน.
-
การทำลายวิหารที่สองของเยรูซาเล็ม (Second Temple) โดยชาวโรมันเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 70 ระหว่างการล้อมเยรูซาเล็ม (Siege of Jerusalem) ในช่วงสงครามยิว-โรมันครั้งแรก (First Jewish-Roman War) สงครามนี้เกิดจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างชาวยิวในแคว้นยูเดีย (Judea) กับจักรวรรดิโรมัน เนื่องจากชาวยิวไม่พอใจต่อการปกครองของโรมันและการละเมิดศาสนาและวัฒนธรรมของตน
-
การทำลายวิหารที่สองของเยรูซาเล็ม (Second Temple) โดยชาวโรมันเกิดขึ้นในช่วงการล้อมเยรูซาเล็ม (Siege of Jerusalem) ซึ่งเริ่มต้นในปี 70 คริสต์ศักราชและสิ้นสุดในปีเดียวกัน การล้อมและการทำลายวิหารเป็นส่วนหนึ่งของการกบฏครั้งใหญ่ที่เรียกว่า “การกบฏของชาวยิว” (Jewish Revolt) หรือ “การกบฏที่สองของชาวยิว” (First Jewish-Roman War)
-
ภูเขาไฟวีซูเวียส (Mount Vesuvius) ปะทุครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปี 79 คริสต์ศักราช (AD) การปะทุครั้งนี้ทำให้เมืองปอมเปอี (Pompeii), เฮอร์คิวลานีอุม (Herculaneum), และเมืองอื่นๆ ใกล้เคียงถูกฝังอยู่ใต้เถ้าภูเขาไฟและลาวา การปะทุครั้งนี้เป็นหนึ่งในการระเบิดของภูเขาไฟที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
-
พระราชกฤษฎีกานี้เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับศาสนาคริสต์ในจักรวรรดิโรมัน เพราะทำให้ศาสนาคริสต์เติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมมากขึ้น และในที่สุด คริสตจักรก็กลายเป็นศาสนาประจำรัฐของจักรวรรดิโรมันภายใต้จักรพรรดิธีโอโดซิอุสที่ 1 (Theodosius I) ในปี ค.ศ. 380
-
เกิดขึ้นในปี 313 คริสต์ศักราช โดยมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปีนั้น พระราชกฤษฎีกานี้ออกโดยจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 (Constantine the Great) และจักรพรรดิหลุเซนิอุส (Licinius) ซึ่งได้ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาคริสต์และยุติการข่มเหงคริสเตียนในจักรวรรดิโรมัน นับเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การยอมรับและการกระจายของศาสนาคริสต์ในจักรวรรดิโรมัน
-
สังคายนาไนเซียครั้งที่หนึ่ง เป็นสภาสังคายนาสากลครั้งแรกในศาสนาคริสต์ โดยจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชทรงเรียกประชุมบรรดามุขนายกทั่วจักรวรรดิโรมันมาประชุมกันที่เมืองไนเซีย เพื่อหาข้อสรุปความเชื่อเกี่ยวกับสถานะของพระบุตร และความสัมพันธ์ระหว่างพระบุตรกับพระบิดา และได้ข้อสรุปว่าแม้พระบิดาและพระบุตรจะต่างบุคคลกัน แต่มีความเป็นพระเจ้าร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว สภาสังคายนาคอนสแตนติโนเปิลครั้งที่หนึ่งได้ยืนยันข้อสรุปนี้อีกครั้งในปี ค.ศ. 381 และแถลงออกมาเป็นหลักข้อเชื่อไนซีน
-
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกประกอบไปด้วยหลายปัจจัยด้วยกัน แต่ปัจจัยสำคัญมาจากการที่โรมันถูกรุกรานจากชนเผ่าอนารยชน ไม่ว่าจะเป็นพวกชนเผ่าเยอรมัน (Germanic Tribes) อย่างเช่น พวกแวนดัล (Vandals) พวกวิสิกอธ (Visigoths) และพวกแฟรงก์ (Franks) รวมถึงชนเผ่าลึกลับจากเอเชียอย่างพวกฮัน (Huns)
-
ยุคกลาง (Middle Ages) เป็นช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นหลังจากยุคโบราณและก่อนยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาของยุโรปตั้งแต่การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก
-
จักรพรรดิ จัสติเนียนที่ 1 (Justinian I) ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 527–565 เป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์ การปกครองของจัสติเนียนได้รับการจดจำในประวัติศาสตร์จากหลายด้าน ทั้งการขยายดินแดน การปรับปรุงกฎหมาย และการฟื้นฟูวัฒนธรรมโรมัน จักรพรรดิองค์นี้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาจักรวรรดิไบแซนไทน์จนถึงยุคที่รุ่งเรืองที่สุด
-
จักรพรรดิ จัสติเนียนที่ 1 (Justinian I) แห่งจักรวรรดิเบซันไทน์ ปกครองระหว่างปี 527-565 และมีการปกครองที่สำคัญและมีผลกระทบอย่างมากต่อประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิไบแซนไทน์
-
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ YouTube : White Channel | สถานี
ความดี 24 ชั่วโมง หรือ Qr-code -
ชาร์ลมาญ (Charlemagne) หรือพระเจ้าชาร์ลมหาราช (ครองราชย์ ค.ศ. 768–814) เป็นผู้ที่ขยายอาณาจักรแฟรงก์ให้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตก ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงอิทธิพลและสามารถขยายอำนาจทางการเมืองและศาสนา ทรงได้รับการสวมมงกุฎเป็น จักรพรรดิแห่งโรมัน โดยสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 3 ในปี ค.ศ. 800 ทำให้จักรวรรดิฟรังค์เป็นจักรวรรดิที่ครอบครองพื้นที่กว้างใหญ่และทรงอิทธิพลในยุโรป
-
ชาร์ลมาญ (Charlemagne) หรือที่รู้จักในชื่อ ชาร์ลส์มหาราช (Charles the Great) ปกครองระหว่างปี 768-814 และเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรปยุคกลาง
-
การก่อตั้งจักรวรรดิฟรังค์ เริ่มขึ้นเมื่อ พระเจ้าคลอวิสที่ 1(Clovis I) รวมเผ่าชาวแฟรงก์ให้เป็นหนึ่งเดียวในช่วงปลายศตวรรษที่ 5 และเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากคริสตจักร ต่อมาในยุค ราชวงศ์คาโรแล็งเจียน ชาร์ลมาญ (Charlemagne) ขยายอาณาจักรแฟรงก์จนครอบคลุมยุโรปตะวันตกและได้รับการสวมมงกุฎเป็นจักรพรรดิแห่งโรมันในปี ค.ศ. 800 ถือเป็นการฟื้นฟูจักรวรรดิโรมันในตะวันตก
-
เริ่มต้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 5 เมื่อชาวฟรังค์เริ่มสร้างอาณาจักรของตนในดินแดนที่ปัจจุบันคือฝรั่งเศสและเยอรมนีตะวันออก โดยมีการรวมตัวกันของอาณาจักรฟรังค์ภายใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์ชาร์เลอมาญ (Charlemagne) ในปี 800 คริสต์ศักราช ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิฟรังค์โดยพระสันตะปาปาเลโอที่ 3 จักรวรรดิฟรังค์เริ่มเสื่อมลงหลังจากการตายของชาร์เลอมาญในปี 814 คริสต์ศักราช และได้แบ่งออกเป็นสามอาณาจักรตามพระราชกฤษฎีกาแห่งเวออู (Treaty of Verdun) ในปี 843 คริสต์ศักราช
-
การพิชิตอังกฤษโดยวิลเลียมแห่งนอร์มังดี หรือที่เรียกว่า การพิชิตอังกฤษในปี ค.ศ. 1066 เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษ วิลเลียม ดยุกแห่งนอร์มังดี (William the Conqueror) จากฝรั่งเศส ได้ทำการรุกรานและพิชิตอังกฤษ หลังจากการต่อสู้ในยุทธการเฮสติ้งส์ (Battle of Hastings) ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างทางการเมือง วัฒนธรรม และสังคมของอังกฤษ
-
การลงนามใน แม็กนา คาร์ตา (Magna Carta) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1215 โดยพระเจ้าจอห์นแห่งอังกฤษถูกขุนนางบังคับให้ลงนาม หลังจากที่พวกเขาไม่พอใจการปกครองที่กดขี่และการเก็บภาษีที่ไม่ยุติธรรม แม็กนา คาร์ตาเป็นเอกสารที่จำกัดอำนาจของกษัตริย์และวางหลักการที่สำคัญ เช่น การเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน การปกครองตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม แม็กนา คาร์ตาถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมในอังกฤษ และมีอิทธิพลต่อกฎหมายสมัยใหม่ทั่วโลก
-
การเดินทางของมาร์โค โปโล เริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1271 เมื่อมาร์โค โปโลและครอบครัวเดินทางจากเวนิสผ่านเส้นทางสายไหมไปยังจีน เขาเข้าเฝ้ากุบไลข่าน จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หยวน และได้รับตำแหน่งในราชสำนัก มาร์โคใช้เวลาอยู่ในจีนประมาณ 17 ปี ก่อนที่จะกลับมาที่เวนิสในปี ค.ศ. 1295 เรื่องราวการเดินทางของเขาได้รับการบันทึกในหนังสือ “The Travels of Marco Polo” ซึ่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเอเชียตะวันออกและกระตุ้นความสนใจในการสำรวจและการค้าขายของยุโรป
-
มาร์โค โปโล เริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญของเขาในปี 1271 และเดินทางกลับมาถึงเวนิสในปี 1295 รวมระยะเวลาการเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 24 ปี
-
จักรวรรดิออตโตมันก่อตั้งขึ้นในปลายศตวรรษที่ 13 โดย โอสมันที่ 1 ซึ่งเป็นผู้นำเผ่าโอตโตมันในภูมิภาคอนาโตเลีย (Anatolia) รัฐเล็ก ๆ นี้เริ่มขยายอำนาจอย่างรวดเร็ว โดยการพิชิตเมืองบูร์ซา (Bursa) ในปี ค.ศ. 1326 และต่อมาความสำเร็จสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อ สุลต่านเมห์เม็ดที่ 2 พิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) ในปี ค.ศ. 1453 ซึ่งกลายเป็นเมืองหลวงใหม่ของจักรวรรดิที่ชื่อว่า อิสตันบูล (Istanbul) การก่อตั้งนี้ทำให้จักรวรรดิออตโตมันกลายเป็นมหาอำนาจที่ครอบคลุมตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก และแอฟริกาเหนือ
-
เริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 โดยการก่อตั้งอาณาจักรนี้เริ่มต้นด้วยการรวมกลุ่มของชนเผ่าตุรกีภายใต้การนำของอุสมานที่ 1 (Osman I) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ออตโตมัน ช่วงเวลาที่เรียกว่า “การก่อตั้ง” ส่วนใหญ่ถือว่าเริ่มต้นในปี 1299 คริสต์ศักราช จักรวรรดิออตโตมันยั่งยืนและขยายอำนาจตลอดระยะเวลาหลายศตวรรษจนกระทั่งสิ้นสุดลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยการจัดตั้งสาธารณรัฐตุรกีในปี 1923 คริสต์ศักราช ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของจักรวรรดิออตโตมันอย่างเป็นทางการ
-
การแพร่ระบาดของกาฬโรค หรือ Black Death เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1347 ถึง 1351 โดยการแพร่ระบาดนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Yersinia pestis ที่ถูกนำเข้ามาในยุโรปโดยพ่อค้าและทหารจากเอเชียกลาง การแพร่กระจายของโรคเกิดจากหมัดที่อาศัยอยู่ในหนูที่ติดเชื้อและส่งต่อโรคสู่มนุษย์ โรคนี้ทำให้เกิดการเสียชีวิตอย่างรุนแรงในประชากรยุโรป ประมาณหนึ่งในสามของประชากรยุโรปทั้งหมดหรือประมาณ 25-30 ล้านคนเสียชีวิต อาการรวมถึงไข้สูง การบวมของต่อมน้ำเหลืองและการตกเลือดภายใน
-
การแพร่ระบาดของ กาฬโรค (Black Death) หรือ มหาโรคระบาด เกิดขึ้นในช่วง ปี 1347-1351 โดยเป็นโรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อประชากรยุโรปและเอเชีย
-
ยุคแห่งการสำรวจ (Age of Exploration) หรือ ยุคแห่งการค้นพบ (Age of Discovery) คือช่วงเวลาที่มีการสำรวจและค้นพบดินแดนใหม่ทั่วโลกโดยนักสำรวจชาวยุโรป
-
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) คือช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่มีการฟื้นฟูและพัฒนาศิลปะ วรรณกรรม วิทยาศาสตร์ และความคิดทางปรัชญา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะและวรรณกรรมของกรีกและโรมันโบราณ
-
การล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์ โดยทั่วไปแล้ว เชื่อว่าเกิดขึ้นหลังจากที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกยึดโดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมันใน ค.ศ. 1453 โดยกรุงคอนสแตนติโนเปิลได้ถูกเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอิสตันบูลมาจนถึงปัจจุบัน และในทางประวัติศาสตร์ยังได้ถือว่าการสิ้นสุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์เป็นจุดสิ้นสุดยุคกลางในยุโรปอีกด้วย
-
เริ่มต้นเมื่อปี 1492 โคลัมบัสได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้าเฟอร์ดินานด์และพระนางอิซาเบลล่าแห่งสเปนในการเดินทางเพื่อค้นหาเส้นทางใหม่ไปยังเอเชีย เขานำเรือสามลำ ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1492 โคลัมบัสได้ลงจอดที่เกาะบาฮามาสซึ่งเขาตั้งชื่อว่า “ซานซัลวาดอร์”เขายังได้สำรวจเกาะอื่น ๆ ในแคริบเบียน รวมถึงฮิสปานิโอลา (ปัจจุบันคือเฮติและสาธารณรัฐโดมินิกัน) โคลัมบัสเชื่อว่าเขาได้มาถึงเอเชีย แต่ในความเป็นจริงเขาได้ค้นพบทวีปอเมริกาซึ่งยังไม่ได้รับการสำรวจโดยชาวยุโรปมาก่อน
-
วาสโก ดา กามา เดินทางไปยังอินเดียในปี 1497-1498 โดยเขาเริ่มจากลิสบอนในโปรตุเกส เดินทางผ่านเคปแห่งความหวัง (Cape of Good Hope) และมาถึงเมืองกัลกัตตา (Calicut) บนชายฝั่งตะวันตกของอินเดีย การเดินทางนี้เปิดเส้นทางการค้าโดยตรงระหว่างยุโรปและอินเดีย ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อการค้าเครื่องเทศและสร้างอิทธิพลของโปรตุเกสในเอเชียใต้
-
วาสโก ดา กามา เดินทางไปยังอินเดียในช่วงระหว่างปี 1497-1499 การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบเส้นทางทะเลตรงจากยุโรปไปยังอินเดีย ส่งผลให้โปรตุเกสกลายเป็นมหาอำนาจทางการค้าในเอเชีย
-
เป็นช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เช่น การปฏิวัติอังกฤษ และการก่อตั้งสหรัฐอเมริกา
-
ช่วงที่เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยมีนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเช่น ไอแซก นิวตัน
-
การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ คือขบวนการที่เริ่มโดย มาร์ติน ลูเทอร์ เมื่อปี ค.ศ. 1517 เพื่อแก้ไขความเสื่อมโทรมของนิกายโรมันคาทอลิก และสถาบันสันตะปาปา มาเสร็จสิ้นลงด้วยสนธิสัญญาสันติภาพเวสต์ฟาเลีย ค.ศ. 1648ผลจากการปฏิรูปคือการแยกตัวจากนิกายคาทอลิกมาเป็นนิกายโปรเตสแตนต์
-
การเริ่มต้นของ การปฏิรูปศาสนาคริสต์ โดย มาร์ติน ลูเทอร์ เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 และต้นศตวรรษที่ 16 การกระทำนี้เป็นการเปิดฉากการปฏิรูปศาสนา ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโครงสร้างและความเชื่อของคริสตจักรในยุโรป
-
ในวันที่ 31 กรกฎาคม ทัพเรือทั้งสองปะทะกันเป็นครั้งแรก โดยกองทัพเรืออังกฤษไล่ตีสเปนไปไปตามช่องแคบและสามารถยึดเรือสเปนได้สองลำ ชัยชนะครั้งแรกเป็นของอังกฤษ ต่อมา ทัพเรืออังกฤษ และ กองเรืออาร์มาดาได้ต่อสู้กัน แต่เรืออังกฤษทำการบรรทุกเชื้อเพลิงไว้แล้วเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดานจากนั้นจุดเพลิงเผาให้วอดแล้วพุ่งชนกองเรือของสเปน ทำให้เกิดการระเบิดขึ้นและกองเรือของสเปนเกิดความหวาดกลัว ทำให้กองเรือของสเปนต่างถ่อยร้นทำให้กองเรือสเปนแตกพ่าย และนั้นคือจุดจบของกองเรืออาร์มาดาของสเปน
-
สงครามกลางเมืองอังกฤษ (English Civil War) เป็นความขัดแย้งทางการเมืองและทหารที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1642 และ 1651 ระหว่างฝ่ายกษัตริย์ (Royalists) ซึ่งสนับสนุนพระเจ้า ชาร์ลส์ที่ 1 และฝ่ายพาร์ลิเมนต์ (Parliamentarians) ซึ่งมีผู้นำหลักคือ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์
สงครามจบลงด้วยการจับพระเจ้า ชาร์ลส์ที่ 1 และการประหารชีวิตของพระองค์ในปี 1649 และการจัดตั้งสาธารณรัฐอังกฤษภายใต้การนำของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นการปกครองแบบกษัตริย์อีกครั้งในปี 1660 หลังจากการตายของครอมเวลล์ -
สงครามกลางเมืองอังกฤษ (English Civil War) เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1642-1651 ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างฝ่ายที่สนับสนุน กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 1 และฝ่ายที่สนับสนุน รัฐสภาอังกฤษ สงครามนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์อังกฤษเนื่องจากมันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ และมีผลกระทบต่อการปกครองและสถาบันในอังกฤษ
-
การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์ (1688-1689) เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การปกครองอังกฤษเปลี่ยนแปลงอย่างไม่รุนแรง พระเจ้าเจมส์ที่ 2 ถูกแทนที่โดยวิลเลียมแห่งออเรนจ์และเจ้าหญิงแมรี่ ผู้เป็นทายาทของเจมส์ วิลเลียมเข้ายึดครองอังกฤษโดยไม่ต้องสู้รบ และเจมส์หนีไปฝรั่งเศส การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาและมีการออก “พระราชบัญญัติการปฏิวัติ” (Bill of Rights 1689) ซึ่งจำกัดอำนาจกษัตริย์และส่งเสริมหลักการปกครองแบบรัฐธรรมนูญ การปฏิวัติอันรุ่งโรจน์วางรากฐานสำหรับการพัฒนาระบบการปกครองในอังกฤษ
-
ช่วงเวลาที่เกิดการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและการผลิต ทำให้เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา
-
การประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1776 เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้อาณานิคมอังกฤษในอเมริกาเหนือประกาศแยกตัวออกจากจักรวรรดิอังกฤษและก่อตั้งเป็นประเทศใหม่ที่เรียกว่า “สหรัฐอเมริกา”
-
การปฏิวัติฝรั่งเศส เริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1789 เมื่อกองกำลังประชาชนร่วมกันล้มล้างระบอบเก่าเพื่อสถาปนาระบอบใหม่ นำไปสู่ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญเป็นระยะเวลาชั่วคราว และแล้วสถาบันกษัตริย์ก็ถูกล้มล้างโดยสมบูรณ์ หรือสามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ YouTube : Point of View
-
การขึ้นสู่อำนาจของนโปเลียน โบนาปาร์ตเริ่มต้นจากความสำเร็จทางทหารในช่วงสงครามปฏิวัติฝรั่งเศส หลังจากที่เขาได้ชัยชนะในสงครามต่างประเทศและได้รับความนิยม เขาใช้โอกาสนี้รัฐประหารในปี 1799 โค่นล้มรัฐบาลเถลิงอำนาจและจัดตั้งรัฐบาลคอนซูลาร์ (Consulate) ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในสามของคอนซูล ต่อมาในปี 1804 นโปเลียนประกาศตัวเองเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส และก่อตั้งจักรวรรดิที่หนึ่ง (First French Empire) การขึ้นสู่อำนาจของเขาส่งผลกระทบสำคัญต่อการเมืองและการปกครองในยุโรป
-
เน้นการปฏิวัติอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และการขยายตัวของอาณานิคม
-
สงครามปี 1812 เป็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ เกิดขึ้นระหว่างปี 1812-1815 สาเหตุหลักรวมถึงการบังคับกองเรือทหาร (Impressment) ของอังกฤษ, การสนับสนุนชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันที่ต่อต้านการขยายตัวของสหรัฐฯ, และการปิดล้อมทางเศรษฐกิจ อังกฤษได้โจมตีวอชิงตัน ดี.ซี. และเผาเมืองในปี 1814 การรบที่นิวออร์ลีนส์ในปี 1815 ทำให้สหรัฐฯ ชนะ
-
สงครามปี 1812 เป็นความขัดแย้งที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ และมีบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันและการทูตระหว่างประเทศ
-
การยกเลิกทาสในจักรวรรดิอังกฤษเริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเคลื่อนไหว เช่น วิลเบอร์ฟอร์ซและสมาคมต่อต้านการค้าทาส การยกเลิกการค้าทาสเริ่มจากพระราชบัญญัติการค้าทาสปี 1807 ซึ่งห้ามการนำเข้าทาสจากแอฟริกา ต่อมามีพระราชบัญญัติการยกเลิกทาสปี 1833 ซึ่งยกเลิกการเป็นทาสในจักรวรรดิอังกฤษทั้งหมด ทาสทุกคนได้รับการปล่อยตัว และเจ้าของทาสได้รับค่าชดเชย กฎหมายนี้ทำให้จักรวรรดิอังกฤษเป็นหนึ่งในผู้นำในการยกเลิกทาสทั่วโลก
-
เป็นการปฏิวัติของชนชั้นกระฎุมพีที่ต้องการล้มล้างระบอบกษัตริย์และก่อตั้งรัฐเอกราช การปฏิวัตินี้มีสาเหตุหลักมาจากความไม่พอใจชนชั้นปกครอง ความต้องการมีส่วนร่วมในการปกครองของประชาชน การเรียกร้องเสรีภาพสื่อ กระแสชาตินิยมและเสรีนิยม และข้อเรียกร้องอื่น ๆ จากชนชั้นแรงงาน
-
สงครามกลางเมืองอเมริกา (1861-1865) เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐเหนือ (Union) และรัฐใต้ (Confederacy) สาเหตุหลักคือความแตกต่างด้านนโยบายการเป็นทาสและสิทธิโดยรัฐ สงครามเริ่มต้นเมื่อรัฐใต้ยิงใส่ Fort Sumter ในปี 1861 การรบสำคัญรวมถึงที่เก็ตตีสเบิร์กและแอนตีเทัม สงครามจบลงเมื่อรัฐใต้ยอมแพ้ในปี 1865 ซึ่งทำให้สหภาพกลับมารวมเป็นหนึ่ง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 13 ได้ยกเลิกการเป็นทาสทั่วประเทศ
-
สงครามกลางเมืองอเมริกา (American Civil War) เกิดขึ้นระหว่างปี 1861-1865: • เริ่มต้นสงคราม: 12 เมษายน 1861 — การโจมตีที่ ฟอร์ตซัมเตอร์ (Fort Sumter) ในรัฐเซาท์แคโรไลนา • สิ้นสุดสงคราม: 9 เมษายน 1865 — การยอมจำนนของ โรเบิร์ต อี. ลี (Robert E. Lee) ต่อ ยูลีซิส เอส. แกรนต์ (Ulysses S. Grant) ที่ Appomattox Court House สงครามนี้เป็นความขัดแย้งระหว่างฝ่ายสหภาพ (Union) และฝ่ายรัฐสมาพันธ์ (Confederacy) และมีผลกระทบสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
-
จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีรู้จักกันในนาม ออสเตรีย-ฮังการี (อังกฤษ: Austria-Hungary) เป็นรัฐราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และเป็นมหาอำนาจในยุโรปกลาง ที่ดำรงอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1867 ถึง ค.ศ. 1918จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีได้รับการสถาปนาขึ้นจากการประนีประนอมระหว่างออสเตรียและฮังการี ใน ค.ศ. 1867 และถูกยุบหลังจากที่จักรวรรดิออสเตรีย–ฮังการีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
-
การรวมชาติของจักรวรรดิเยอรมันที่ประสบความสำเร็จเกิดขึ้นภายหลังสงครามระหว่างฝรั่งเศสกับรัสเซีย ในปี ค.ศ. 1871 โดยพระเจ้าวิลเฮล์มที่ 1 แห่งปรัสเซียเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ โดยมีออทโท ฟอน บิสมาร์คดำรงตำแหน่งมุขมนตรีแห่งปรัสเซีย นโยบายการรวมชาติของออทโท ฟอน บิสมาร์ค คือ นโยบายเลือดและเหล็ก เลือดหมายถึงการมุ่งทำสงคราม เหล็กภายถึงการมุ่งพัฒนาอุตสหกรรม ในช่วงที่มีอำนาจออทโท ฟอน บิสมาร์คไม่มีนโยบายล่าอาณานิคมในดินแดนทวีปอื่น
-
เป็นสงครามที่เริ่มต้นขึ้นภายหลังการระเบิดเรือยูเอสเอส เมน ในท่าเรืออาบานา อาณานิคมคิวบา นำไปสู่การแทรกแซงสงครามประกาศอิสรภาพคิวบาของสหรัฐ ซึ่งทำให้สหรัฐเริ่มมีอิทธิพลอย่างโดดเด่นเหนือภูมิภาคแคริบเบียน และได้รับดินแดนจำนวนมาก ได้แก่ ปวยร์โตรีโก กวม และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ สงครามยังนำไปสู่การมีส่วนร่วมของสหรัฐในการปฏิวัติฟิลิปปินส์และสงครามฟิลิปปินส์–สหรัฐที่เกิดขึ้นภายหลังอีกด้วย
-
สงครามสเปน-อเมริกันเกิดขึ้นระหว่างปี 1898 ถึง 1899 โดยเริ่มต้นจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและสเปน ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรสเปนในอเมริกาและการเสริมสร้างอำนาจของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคนี้
-
ช่วงเวลาของสงครามโลกทั้งสองครั้ง การสร้างรัฐสวัสดิการ การพัฒนาเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง
-
เป็นความขัดแย้งกันระหว่างสองขั้วมหาอำนาจพันธมิตร ได้แก่ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายมหาอำนาจกลาง โดยการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายดำเนินขึ้นในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา แปซิฟิก และพื้นที่บางส่วนของทวีปเอเชีย เป็นหนึ่งในสงครามที่มีความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนทหารที่เสียชีวิต 9 ล้านนาย และบาดเจ็บ 23 ล้านนาย รวมทั้งพลเรือนที่เสียชีวิตจากสาเหตุอื่นอีก 5 ล้านคน ในช่วงสงครามมีการกระทำฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ และสงครามยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาดทั่วของไข้หวัดใหญ่สเปน
-
สองเหตุการณ์หลักของการปฏิวัติรัสเซีย 1. การปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์: ล้มล้างราชวงศ์โรมานอฟ นำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลชั่วคราวภายใต้การนำของอเล็กซานเดอร์ เคเรนสกี้ ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและสงครามได้ 2. การปฏิวัติเดือนตุลาคม: บอลเชวิคภายใต้การนำของเลนินทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลชั่วคราว และก่อตั้งสหภาพโซเวียต นำไปสู่การเริ่มต้นของระบอบคอมมิวนิสต์ในรัสเซีย การปฏิวัติทั้งสองนี้เปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองของรัสเซียและมีผลกระทบต่อประวัติศาสตร์โลกในศตวรรษที่ 20
-
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (อังกฤษ: Great Depression) เป็นภาวะช็อกทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลก เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำอย่างเห็นได้ชัดหลังจากราคาหุ้นในสหรัฐอเมริการ่วงลงอย่างมาก โรคระบาดทางการเงินเริ่มขึ้นในราวเดือนกันยายนและนำไปสู่การพังทลายของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันที่ 24 ตุลาคม (พฤหัสทมิฬ)
-
เกิดขึ้นในปี 1929 โดยเริ่มต้นจากการตกต่ำของตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาในเหตุการณ์ที่เรียกว่า “Black Tuesday” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 1929 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโลกตลอดช่วงทศวรรษ 1930
-
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ขึ้นสู่อำนาจในเยอรมนีเมื่อเขาได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 30 มกราคม 1933 การขึ้นสู่อำนาจของฮิตเลอร์เกิดขึ้นหลังจากพรรคนาซี (Nazi Party) ที่เขานำมีการชนะการเลือกตั้งและสร้างความกดดันทางการเมืองจนประธานาธิบดีพอล ฟอน ฮินเดนบูร์ก (Paul von Hindenburg) แต่งตั้งเขาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ฮิตเลอร์ใช้ตำแหน่งนี้ในการเสริมสร้างอำนาจและเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของเยอรมนีให้เป็นระบอบเผด็จการนาซี
-
เริ่มต้นในวันที่ 30 มกราคม 1933 เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เยอรมนี และสิ้น สุดในวันที่ 8 พฤษภาคม 1945 เมื่อสงครามโลก
ครั้งที่สองสิ้นสุดลงและฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายในวัน ที่ 30 เมษายน 1945 ที่บังเกอร์ของเขาในเบอร์ลิน -
เป็นสงครามทั่วโลกที่กินเวลาตั้งแต่ ค.ศ. 1939 ถึง 1945 ประเทศส่วนใหญ่ในโลกมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งรัฐมหาอำนาจทั้งหมด แบ่งเป็นพันธมิตรทางทหารคู่สงครามสองฝ่าย คือ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ เป็นสงครามที่กว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ มีทหารกว่า 100 ล้านนายจากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมโดยตรง สงครามนี้มีลักษณะเป็น "สงครามเบ็ดเสร็จ" คือ ประเทศผู้ร่วมสงครามหลักทุ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ทั้งหมดเพื่อความพยายามของสงคราม
-
การทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมะและนางาซากิ เป็นการโจมตีจักรวรรดิญี่ปุ่นด้วยอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายสงครามโลกครั้งที่สอง โดยคำสั่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แฮร์รี เอส. ทรูแมน หลังจากการโจมตีทิ้งระเบิดเพลิงตามเมืองต่าง ๆ 67 เมืองของญี่ปุ่นอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาติดต่อกันถึง 6 เดือน สหรัฐอเมริกาจึงได้ทิ้ง "ระเบิดปรมาณู" หรือที่เรียกในปัจจุบันว่าระเบิดนิวเคลียร์
-
สหประชาชาติก่อตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อป้องกันสงครามในอนาคตและแก้ปัญหาที่สันนิบาตชาติไม่สามารถทำได้สำเร็จ รัฐบาล 50 ประเทศประชุมที่ซานฟรานซิสโกในวันที่ 25 เมษายน 1945 เพื่อร่างกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรได้รับการประกาศใช้ในวันที่ 25 มิถุนายน 1945 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 ตุลาคม 1945
-
เริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1945 หลังจากการลงนามในสนธิสัญญาสหประชาชาติ (Charter of the United Nations) โดยประเทศสมาชิกก่อตั้งในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหประชาชาติยังคงดำเนินกิจกรรมอยู่จนถึงปัจจุบัน
-
การประกาศอิสรภาพของอินเดียเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1947 หลังจากการต่อสู้เพื่อแยกตัวออกจากการปกครองของอังกฤษ การเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชนำโดยผู้นำเช่น มหาตมะ คานธี และเนห์รู ผ่านการเคลื่อนไหวอย่างสันติและการเจรจาทางการเมือง การประกาศอิสรภาพนำไปสู่การแบ่งแยกประเทศเป็นสองส่วน: อินเดียและปากีสถาน โดยเนห์รูได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย
-
สงครามเกาหลี เป็นสงครามที่เกิดจากการแยกตัวของเกาหลีออกเป็นสองประเทศ: เกาหลีเหนือ (คอมมิวนิสต์) และเกาหลีใต้ (สนับสนุนโดยสหรัฐฯ) เริ่มต้นเมื่อเกาหลีเหนือรุกรานเกาหลีใต้ในปี 1950 สหรัฐฯ และพันธมิตรสนับสนุนเกาหลีใต้ ขณะที่จีนเข้าร่วมฝ่ายเกาหลีเหนือ สงครามสิ้นสุดด้วยการสงบศึกในปี 1953 โดยไม่มีการลงนามสัญญาสันติภาพ สถานการณ์ยังคงแบ่งแยกระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จนถึงปัจจุบัน
-
• เริ่มต้นสงคราม: 25 มิถุนายน 1950 — การบุกของกองทัพเกาหลีเหนือ (North Korea) ข้ามพรมแดนไปยังเกาหลีใต้ (South Korea) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม
• สิ้นสุดสงคราม: 27 กรกฎาคม 1953 — การลงนามใน ข้อตกลงหยุดยิง (Armistice Agreement) ที่หยุดการต่อสู้และสร้างเส้นแบ่งเขตปลอดทหาร (DMZ) ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ สงครามเกาหลีเป็นความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตและจีน กับเกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรฝ่ายตะวันตก -
การลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี เกิดขึ้นเมื่อขณะที่เขากำลังขับรถยนต์เปิดประทุนในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เคนเนดีถูกยิงเสียชีวิตโดยลีย์ ฮาร์วีย์ ออสวาลด์ (Lee Harvey Oswald) ขณะขับรถร่วมกับภรรยาและผู้ว่าการรัฐเท็กซัสในขบวนรถลิมูซีน ออสวาลด์ถูกจับกุมและถูกกล่าวหาว่าฆ่าเคนเนดี แต่ถูกฆ่าตายในระหว่างการคุมขังก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นศาล การลอบสังหารนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการเมืองและประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา และยังเป็นหัวข้อของการสอบสวนและทฤษฎีสมคบคิดมากมาย
-
อินเทอร์เน็ตเริ่มต้นจากโครงการ ARPANET ของ DARPA ในปี 1969 เพื่อเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง ต่อมาในปี 1970s-1980s, การพัฒนาโปรโตคอล TCP/IP โดย วินท์ เซิร์ฟ และ โรเบิร์ต คาอิน ทำให้การเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ เป็นไปได้ ในปี 1990s, การสร้าง World Wide Web โดย ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี ทำให้การเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บเบราว์เซอร์สะดวกขึ้น อินเทอร์เน็ตจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั่วโลก
-
อะพอลโล 11 เป็นยานอวกาศลำแรกที่ลงจอดบนผิวของดวงจันทร์สำเร็จขององค์การนาซา ยานอะพลอลโล 11 ถูกส่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโดยจรวด แซเทิร์น 5 (Saturn V) ศูนย์อวกาศเคนเนดี (Kennedy Space Center) แหลมคานาเวอรัล รัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 และ 3 วันต่อมา ตรงกับวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 เวลา 20:17 UTC Lunar Module ก็ลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ ในตำแหน่งที่มีชื่อว่า “ทะเลแห่งความเงียบสงบ (Sea of Tranquility)” ซึ่งเป็นที่ราบที่เกิดจากลาวาไหลท่วมผิวดวงจันทร์เมื่อนานมาแล้ว
-
วิกฤตหนี้สาธารณะในละตินอเมริกา เกิดขึ้นในช่วงปี 1982-1989: • เริ่มต้น: 1982 — เม็กซิโกประกาศไม่สามารถชำระหนี้ต่างประเทศได้ • สิ้นสุด: ประมาณ 1989 — การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้และการสนับสนุนจาก IMF ช่วยบรรเทาปัญหา วิกฤตนี้ทำให้หลายประเทศในละตินอเมริกาต้องปรับนโยบายเศรษฐกิจและเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม.
-
เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลกซึ่งแสดงถึงการทลายม่านเหล็กและจุดเริ่มต้นการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกและกลาง การทลายชายแดนเยอรมันภายในเกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน การสิ้นสุดสงครามเย็นได้รับการประกาศที่การประชุมสุดยอดมอลตาในสามสัปดาห์ต่อมา และการรวมเยอรมนีอีกครั้งก็เกิดขึ้นในปีต่อมา
-
การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเกิดขึ้นในปี 1991 หลังจากวิกฤตทางเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงนโยบายการปฏิรูปของไมเคิล กอร์บาชอฟที่ไม่สามารถแก้ปัญหาภายในประเทศได้ ความเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชในประเทศสมาชิกทำให้เกิดแรงกดดันมากขึ้น และในเดือนธันวาคม 1991 สหภาพโซเวียตถูกยุบอย่างเป็นทางการ โดยประเทศสมาชิกต่างๆ ประกาศเอกราชและแยกตัวออกจากสหภาพ
-
วิกฤตต้มยำกุ้ง หรือวิกฤตการเงินเอเชีย เกิดขึ้นในปี 1997 เริ่มจากการลอยตัวค่าเงินบาทของประเทศไทยและการล้มละลายของธนาคารและบริษัทในประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงอย่างรวดเร็ว และแพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย วิกฤตนี้นำไปสู่การลดลงของการเติบโตทางเศรษฐกิจและการขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
-
ยุคดิจิทัลและข้อมูล (Digital and Information Age) เริ่มต้นในปลายศตวรรษที่ 20 และดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
-
เหตุการณ์ 9/11 เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 เมื่อกลุ่มอัล-ไกดาโจมตีสหรัฐอเมริกาโดยใช้เครื่องบินพาณิชย์ 4 ลำ: สองลำชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์ก, หนึ่งลำชนเพนตากอน, และอีกลำตกในเพนซิลเวเนียหลังจากผู้โดยสารพยายามต่อต้าน เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,900 คน และมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
-
การสังหารโอซามา บิน ลาเดนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2011 โดยหน่วย SEAL Team 6 ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ในการปฏิบัติการที่เรียกว่า “Operation Neptune Spear” ที่บ้านของบิน ลาเดนในอับบอตตาบัด, ปากีสถาน การสังหารนี้เป็นความสำเร็จสำคัญในการต่อสู้กับการก่อการร้ายและได้รับการตอบรับจากทั่วโลก
-
การลงประชามติ Brexit ในสหราชอาณาจักรจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2016 เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรปหรือไม่ ผลการลงประชามติแสดงให้เห็นว่า 51.9% ของประชาชนเลือกที่จะออกจากสหภาพยุโรป การตัดสินใจนี้นำไปสู่การเจรจาและการออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2020
-
การเปิดตัวเทคโนโลยี 5G เริ่มต้นในปี 2019 โดยมีคุณสมบัติหลักคือความเร็วในการส่งข้อมูลที่สูงขึ้น, ความหน่วงต่ำ, และความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมาก การเปิดตัว 5G มีผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Internet of Things (IoT) และการขับขี่อัตโนมัติ
-
การระบาดของ COVID-19 เริ่มต้นในปลายปี 2019 ที่อู่ฮั่น, ประเทศจีน โดยไวรัส SARS-CoV-2 แพร่กระจายไปทั่วโลกในปี 2020 ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อหลายร้อยล้านคนและผู้เสียชีวิตหลายล้านคน การตอบสนองรวมถึงการล็อกดาวน์, การเว้นระยะห่างทางสังคม, และการฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
-
การระบาดของ COVID-19 • ธันวาคม 2019: การระบาดครั้งแรกเริ่มขึ้นในเมือง อู่ฮั่น (Wuhan) ประเทศจีน • 11 มีนาคม 2020: องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ COVID-19 เป็น โรคระบาดทั่วโลก (Pandemic) • 2020-2021: การระบาดแพร่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม • 2021: เริ่มมีการฉีดวัคซีน COVID-19 อย่างแพร่หลายทั่วโลก • 2022-2024: การระบาดยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าการฉีดวัคซีนและมาตรการควบคุมโรคจะมีผลดีในการลดการแพร่กระจายและความรุนแรงของโรค
-
เทคโนโลยี 5G เป็นมาตรฐานการสื่อสารไร้สายรุ่นที่ห้าของเครือข่ายมือถือ ซึ่งมุ่งเน้นที่การเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูล ลดการหน่วงเวลา และเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จำนวนมากในพื้นที่เดียวกัน เทคโนโลยี 5G เริ่มต้นการเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2019 และยังคงมีการพัฒนาและขยายการใช้งานทั่วโลกในปัจจุบัน
-
การบุกยูเครนโดยรัสเซียเริ่มเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 รัสเซียโจมตียูเครนจากหลายทิศทาง ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ, การพลัดถิ่นของประชาชนหลายล้านคน และผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลก รัฐบาลยูเครนได้รับการสนับสนุนจากชาติต่างๆ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือทางทหารและการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
-
การบุกยูเครนโดยรัสเซียเริ่มต้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 และยังคงดำเนินอยู่จนถึงปัจจุบัน การโจมตีนี้เป็นการรุกรานที่กว้างขวางและทำให้เกิดความขัดแย้งที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครน
-
การพัฒนา: AI ได้รับการพัฒนาผ่านการเรียนรู้ของเครื่องและการเรียนรู้เชิงลึก โดยใช้ข้อมูลขนาดใหญ่และอัลกอริธึมในการปรับปรุงความสามารถในการทำงาน
การนำมาใช้: AI ถูกนำมาใช้ในหลายด้าน เช่น การประมวลผลภาษา, การวิเคราะห์ข้อมูล, การแพทย์, การขับขี่อัตโนมัติ, และการบริการลูกค้า
ผลกระทบ: การใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน, เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิต และกระทบต่อการทำงานในหลายอุตสาหกรรม
ความท้าทาย: รวมถึงปัญหาความเป็นส่วนตัว, ความปลอดภัย, และการเปลี่ยนแปลงในตลาดงาน